You are here
1. ชื่อหลักสูตร
ชื่อภาษาไทย: หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีน้ำมันปาล์มและลิโอเคมี
ชื่อภาษาอังกฤษ: Bachelor of Science Program in Palm and Oleochemical Technology
ชื่อปริญญาและสาขาวิชา
ชื่อเต็มภาษาไทย: วิทยาศาสตรบัณฑิต (เทคโนโลยีน้ำมันปาล์มและลิโอเคมี)
ชื่อย่อภาษาไทย: วท.บ. (เทคโนโลยีน้ำมันปาล์มและลิโอเคมี)
ชื่อเต็มภาษาอังกฤษ: Bachelor of Science (Palm Oil and Oleochemical Technology)
ชื่อย่อภาษาอังกฤษ: B.Sc. (Palm Oil and Oleochemical Technology)
2. ลักษณะสาขาวิชา
2.1 ปรัชญา
สร้างบัณฑิตผู้มีจริยธรรม คุณธรรม มีความรู้ความสามารุ และทักษะในการปฏิบัติงานจริง ก้าวเท่าทันเทคโนโลยีทางน้ำมันปาล์มและโอลีโอเคมี ใช้ความรู้ความสามารถตอบสนองความต้องการของท้องถิ่นและประเทศชาติ
2.2 ความสำคัญ
หลักสูตร“เทคโนโลยีน้ำมันปาล์มและโอลิโอเคมี” ได้มีการพัฒนาขึ้นเพื่อมุ่งหวังในการสร้างบัณฑิตสู่ตลาดงานในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มและอุตสาหกรรมโอลิโอเคมี ซึ่งนับได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่มีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งในด้านพลังงานและด้านอาหารซึ่งถือเป็นความมั่นคงของชาติ โดยในทศวรรษที่ ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มอย่างเป็นรูปธรรม อาทิเช่น การจัดตั้ง“คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ(Thailand Oil Palm Board)” การกำหนดยุทธศาสตร์ภายใต้ “แผนพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม พ.ศ. 2551 – 2555” ที่กำหนดโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ “ยุทธศาสตร์พัฒนาและส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล” ของกระทรวงพลังงาน นอกจากนั้นแล้วในอนาคตอันใกล้อุตสาหกรรมปาล์ม น้ำมันของประเทศไทยจะต้องดำเนินการภายใต้กรอบการดำเนินงานของ RSPO (Roundtable on Sustainable Palm Oil) ซึ่งให้ความสำคัญในเรื่องกระบวนการผลิตน้ำมันปาล์มที่ยั่งยืนทั้งวงจร การผลิต ซึ่งจากนโยบาย แผนการพัฒนาและยุทธศาสตร์ทั้งหลายที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ประเทศไทยยังขาดบุคลากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในสาขานี้โดยตรง ทำให้คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เห็นความจำเป็นและความสำคัญในการพัฒนาหลักสูตร เทคโนโลยีน้ำมันปาล์มและโอลิโอเคมี เพื่อผลิตบัณฑิตรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมนี้
นอกจากนั้นแล้วหลักสูตรเทคโนโลยีน้ำมันปาล์มและโอลิโอเคมี ยังถือได้ว่าเป็นหลักสูตรที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของภาคใต้ และตอบสนองความต้องการของท้องถิ่น เนื่องจากปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจพื้นฐานคู่กับยางพารา บัณฑิตที่จบจากหลักสูตรเทคโนโลยีน้ำมันปาล์ม และโอลิโอเคมี สามารถใช้ความรู้ความสามารถของตนเองในการพัฒนาเศรษฐกิจของท้องถิ่น และมีโอกาสในการทำงานในภูมิลำเนาซึ่งเป็นการช่วยรักษาสถาบันครอบครัวและสังคมท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็งและเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน
2.3 วัตถุประสงค์
2.3.1 เพื่อสร้างบัณฑิตผู้มีจริยธรรม คุณธรรม มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ
2.3.2 เพื่อสร้างบัณฑิตผู้มีความรู้และทักษะทางเทคโนโลยีน้ำมันปาล์มและโอลิโอเคมีที่สามารถปฏิบัติงานได้จริงทั้งในสถานประกอบการ และมีศักยภาพในการที่จะพัฒนากิจการของตนเอง
2.3.3 เพื่อสามารถต่อยอดในการวิจัยและพัฒนา ทางเทคโนโลยีน้ำมันปาล์มและโอลิโอเคมี
2.3.4 เพื่อสร้างบัณฑิตที่สามารถคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ และสามารถแก้ปัญหาได้ มีความเป็นผู้นำและสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
2.4 คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา
2.4.1 สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์
2.4.2 เป็นผู้มีความประพฤติดี
2.4.3 มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่เจ็บป่วยหรือเป็นโรคติดต่อร้ายแรง หรือมีความผิดปกติอื่นที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
2.4.4 มีคุณสมบัติอื่น ๆ ตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ว่าด้วยการศึกษาระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2551
โดยมีวิธีการคัดเลือกผู้เข้าศึกษา ดังนี้
- โดยวิธีการรับตรงในระบบโควตา
- โดยวิธีการสอบคัดเลือกของมหาวิทยาลัย
- โดยวิธีการสอบคัดเลือกผ่านสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
3. แนวทางการประกอบอาชีพและศึกษาต่อ
นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยและพัฒนา เจ้าหน้าที่ประจำห้องปฏิบัติการ ผู้ควบคุมดูแลการผลิต และการควบคุมคุณภาพ ในหน่วยงานต่อไปนี้
- หน่วยงานเอกชน ได้แก่ สถานประกอบการและอุตสาหกรรมทางด้านน้ำมันปาล์ม และผลิตภัณฑ์โอลิโอเคมี อุตสาหกรรมอาหาร (ไขมันและน้ำมัน) อุตสาหกรรมพลังงานและพลังงานทางเลือกอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เป็นต้น
- หน่วยงานราชการ เช่น กระทรวงพลังงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรม สถาบันวิจัย และหน่วยงานของมหาวิทยาลัยต่างๆ
- ธุรกิจส่วนตัว เช่น ประกอบอาชีพอิสระ หรือเจ้าของกิจการด้านการผลิต ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันปาล์ม และเคมีภัณฑ์จากน้ำมันและไขมันธรรมชาติอื่นๆ
นอกจากนี้ยังสามารถศึกษาต่อระดับปริญญาโทและเอก ในสาขาที่เกี่ยวข้องเช่น เคมีอุตสาหกรรม วิศวกรรมเคมี ปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมอาหาร เป็นต้น